ufabet

เจาะลึก! การเลือกช่องทางขายของออนไลน์ ในตลาด Red Ocean สำหรับ B2B และ B2C

การเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ ในปี 2021 นั้นค่อนข้างง่าย… ถึงแม้การทำให้ประสบความสำเร็จนั้นอาจไม่ง่ายเหมือนตอนเริ่ม สาเหตุที่ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์เป็นเรื่องง่ายก็เพราะว่าสมัยนี้มี ช่องทางขายของออนไลน์

มากมาย ทั้ง Website, Sale Page, Social Media ต่างๆ อย่าง Facebook, Instagram, Line, Youtube, Tiktok หรือแม้กระทั่ง E-Marketplace ชื่อดังอย่าง Lazada หรือ Shopee โดยที่คุณสามารถเลือกใช้งานแบบฟรีได้อีกด้วยยิ่งไปกว่านั้นพฤติกรรมผู้บริโภค

ส่วนใหญ่ก็เริ่มมีการใช้จ่ายซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์เยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โอกาศในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าก็มีมากขึ้นกว่าธุรกิจแบบ Traditionalผลสำรวจในเดือนพฤศจิกายน 2563 พบว่า การบริโภคออนไลน์ยังคงเติบโต

ไม่หยุดมีมูลค่าสูงถึง 52,000 ล้านบาทต่อเดือน โดยนิยมซื้อสินค้าและบริการผ่าน Platform สมัยใหม่ เช่น Lazada, Shopee มากที่สุด คิดเป็น 46.45% รองลงมาคือ ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โลตัส/บิ๊กซี/วัตสัน/โรบินสัน) 25.32% และ Facebook 16.44%ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์เฉลี่ยต่อเดือน พบว่า ส่วนใหญ่มียอดซื้อต่ำกว่า 1,000 บาท/เดือน คิดเป็น 49.23%

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)

แต่ด้วยความที่มีช่องทางการสร้างร้านค้าออนไลน์เยอะแยะไปหมด ทำให้ผู้ที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจออนไลน์เกิดความสับสนว่าควรจะไปเริ่มต้นที่ไหนดี.. จะทำ Facebook ดีไหม หรือจะไปขายใน Lazada และ Shopee ดี หรือจะสร้างเว็บไซต์ ทำ Sale Page ดีบทความนี้เราเลยพาคุณเจาะลึกช่องทางในการเปิดหน้าร้านออนไลน์ต่างๆ รวมข้อดี และข้อเสียของแต่ละช่องทาง เพื่อให้คุณได้เริ่มต้นขายของออนไลน์ได้ง่ายขึ้น

การขายของออนไลน์โดยสร้างเว็บไซต์ หรือทำ Sale Page

เว็บไซต์เปรียบเหมือนหน้าร้าน และสำนักงานบนโลกออนไลน์ สะท้อนถึงตัวตนของธุรกิจที่ช่วยสร้างความมั่นใจและดูน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าได้.. โดยประมาณ 4-5 ปีที่แล้วการมีเว็บไซต์เป็นเหมือนช่องทางสำหรับธุรกิจใหญ่ๆ หรือธุรกิจ B2B โดยธุรกิจ SME หรือธุรกิจที่เพิ่มเริ่มต้นก็จะมองว่าเป็นสิ่งสิ้นเปลื่อง เป็นค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น

ufabet

แต่ในปัจจุบัน ประโยชน์ของการมีเว็บไซต์ของตัวเองนั้นก็เสมือนมีคลังเก็บข้อมูล และพฤติกรรมต่างๆ ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เข้ามาใช้งานเว็บไซต์ เช่น เข้ามาที่หน้าไหนบ้าง ดูสินค้าไหนบ้าง หรือซื้อสินค้า A แล้ว เข้ามาซื้อสินค้าอะไรต่อ

ข้อมูลที่ได้จากตรงนี้จะช่วยให้คุณสามารถรู้ได้ว่ากลุ่มเป้าของคุณสนใจอะไร ไม่สนใจอะไร ซึ่งมีประโยชน์ในการทำการตลาดออนไลน์ และโฆษณา เพื่อส่งสินค้าที่ตรงใจไปยังกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และยังสามารถนำไปทำ Remarketing กระตุ้นการเข้าเว็บไซต์ซ้ำ และการปิดการขายได้อีกด้วย

[+] ข้อดีของเว็บไซต์ และ Sale Page

ง่ายต่อการเสิร์ชเจอธุรกิจของคุณบน Google ช่วยให้การทำ Google Ads และ SEO มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสามารถพัฒนาหรือเพิ่มเติมระบบต่างๆ เข้ากับเว็บไซต์ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เช่น ระบบ CRM, Google Analytic หรือ Facebook Pixel เป็นต้นสร้างความน่าเชื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถทำ Remarketing เพื่อกระตุ้นเตือนให้กลุ่มเป้าหมายกลับมาซื้อสินค้าของคุณอีกครั้ง

[-] ข้อเสียของเว็บไซต์ และ Sale Page

เว็บไซต์ไม่สามารถดึงคนเข้ามายังเว็บไซต์เองได้ ต้องอาศัยการทำการตลาด และโฆษณาออนไลน์ ถึงจะมีกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชมจนเกิดการซื้อขายบนเว็บไซต์

มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าเช่าโฮสติ้ง และโดเมนเนมอาศัยทักษะเชิงเทคนิคหลายประการ เพื่อให้สามารถใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ UX, UI, การทำ SEO หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย เป็นต้นการขายของออนไลน์บน Social Media เช่น Facebook/Instagram/Line

แพลตฟอร์ม Social Media เหล่านี้เป็นแพลทฟอร์มที่มีจำนวนผู้คนใช้งานสูงมาก จึงไม่แปลกอะไรที่ Socail Media หลายเป็นตลาดการค้าที่น่าสนใจสำหรับหลายธุรกิจที่ต้องการนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ

ของตนเองสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรเข้าใจก่อนคือวัตถุประสงค์หลักของโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งทุก Social Media มีจุดประสงค์ที่จะให้ผู้คนเข้ามาพบปะ แชร์เรื่องราว ทำความรู้จักกัน และแลกเปลี่ยนสิ่งที่สนใจเหมือนๆ กัน

แต่หลายธุรกิจเข้ามาใช้งานช่องทางนี้ โดยเน้นขายตรงๆ ขายหนักๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ไม่ค่อยเวิร์คแล้วในยุคนี้หากจะใช้ประโยชน์ Social Media คุณต้องรู้จักการทำ Content Marketing เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และสิ่งที่เป็น Key ในการตัดสินใจซื้อของบน Social Media คือ Social Proof หรือจิตวิทยาที่ทำให้สินค้าของเราเป็นที่ยอมรับในสังคม โดยเฉพาะธุรกิจ B2C เพราะผู้บริโภคจะใช้อามณ์ในการตัดสินใจซื้อมากกว่าเหตุผล


ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ cinemavittoria.net อัพเดตทุกสัปดาห์

Releated